เปแอสเช ถล่มอินเตอร์ ไมอามี่ 4-0 ทะลุรอบ 8 ทีมศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025

วันที่ 29 มิถุนายน 2568 การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (FIFA Club World Cup 2025) รอบ 16 ทีมสุดท้าย ณ สนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ สเตเดี้ยม เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา กลายเป็นค่ำคืนที่แฟนบอลทั่วโลกจับตา เมื่อปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เปแอสเช) ทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกจากฝรั่งเศส โชว์ฟอร์มร้อนแรง ไล่ถล่มอินเตอร์ ไมอามี่ ทีมดังจากเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) ที่มีลิโอเนล เมสซี่ อดีตนักเตะของเปแอสเชนำทัพ ด้วยสกอร์ขาดลอย 4-0 คว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

การแข่งขันอันดุเดือดในรูปแบบใหม่ของ FIFA Club World Cup

ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ครั้งนี้จัดขึ้นในรูปแบบใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยมี 32 ทีมจากทั่วทุกทวีปเข้าร่วมแข่งขัน แบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม คัดทีมอันดับ 1 และ 2 เข้าสู่รอบน็อกเอาต์ การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน ถึง 13 กรกฎาคม 2568 โดยมีเงินรางวัลรวมสูงถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทีมแชมป์จะได้รับเงินรางวัลถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เปแอสเช เข้ามาในฐานะแชมป์กลุ่ม B ด้วยผลงานในรอบแบ่งกลุ่มที่แข็งแกร่ง ชนะ 2 นัด และแพ้ 1 นัด เก็บ 6 คะแนน โดยนัดล่าสุดในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาเอาชนะซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส 2-0 ขณะที่อินเตอร์ ไมอามี่ เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม A ด้วยผลงานชนะ 1 เสมอ 2 มี 5 คะแนน โดยนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มเสมอกับพัลไมรัส 2-2

เมสซี่พบทีมเก่า: ความคาดหวังที่สูงลิบ

นัดนี้ถือเป็นไฮไลต์ของรอบ 16 ทีมสุดท้าย เนื่องจากเป็นการพบกันระหว่างเปแอสเช ทีมยักษ์ใหญ่จากยุโรป และอินเตอร์ ไมอามี่ ทีมเจ้าภาพที่มีลิโอเนล เมสซี่ อดีตตำนานของเปแอสเชเป็นตัวชูโรง เมสซี่ ซึ่งเคยค้าแข้งกับเปแอสเชระหว่างปี 2021-2023 และพาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิง 2 สมัย กลายเป็นจุดสนใจของแฟนบอลทั่วโลกที่อยากเห็นว่าเขาจะนำทีมจาก MLS ต่อกรกับทีมเก่าที่เต็มไปด้วยสตาร์ดังได้อย่างไร

อินเตอร์ ไมอามี่ ลงสนามด้วยระบบ 4-4-2 นำโดยเมสซี่และหลุยส์ ซัวเรซในแดนหน้า ขณะที่เซร์คิโอ บุสเก็ตส์คุมแดนกลาง อย่างไรก็ตาม ทีมต้องเผชิญกับปัญหานักเตะบาดเจ็บ โดยจอร์ดี้ อัลบา แบ็กซ้ายตัวเก่ง ไม่ฟิตเต็มร้อย และเดรก คัลเลนเดอร์ ผู้รักษาเตะตัวหลัก ยังคงบาดเจ็บ ทำให้ออสการ์ อุสตารี่ต้องลงเฝ้าเสา.

ในฝั่งเปแอสเช หลุยส์ เอ็นริเก้ ผู้จัดการทีม ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามในระบบ 4-3-3 นำโดยจานลุยจิ ดอนนารุมม่าในตำแหน่งผู้รักษาประตู, อาชราฟ ฮาคิมี่และนูโน่ เมนเดสในตำแหน่งฟูลแบ็ก, มาร์กินโญ AND วิลเลี่ยน ปาโช่ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ส่วนแดนกลางมีฟาเบียน รูอิซ, วิตินญ่า และรูเบน เนเวส ส่วนแนวรุกนำโดยควิช่า ควารัตสเคเลีย, กอนซาโล่ รามอส และเดซิเร่ ดูเอ้.

ครึ่งแรก: เปแอสเชครองเกมถล่ม 4 ประตู

เมื่อเสียงนกหวีดเริ่มต้นการแข่งขัน เปแอสเชแสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นตั้งแต่นาทีแรก พวกเขาครองบอลได้มากกว่าและสร้างโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง โดยในนาทีที่ 6 เจา เนเวส กองกลางดาวรุ่งของเปแอสเช หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนซัดด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเสียบมุมอย่างเฉียบขาด ขึ้นนำ 1-0. เสียงเชียร์จากแฟนบอลเปแอสเชที่เดินทางมาสนับสนุนดังกระหึ่มทั่วสนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ สเตเดี้ยม

อินเตอร์ ไมอามี่พยายามตอบโต้ด้วยการต่อบอลสั้นตามสไตล์ของเมสซี่และบุสเก็ตส์ แต่แนวรับของเปแอสเชที่นำโดยมาร์กินโญสและปาโช่ ปิดพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้โอกาสของอินเตอร์ ไมอามี่มีจำกัด นาทีที่ 39 เปแอสเชมาได้ประตูที่สองจากเจา เนเวสอีกครั้ง เมื่อเขารับบอลจากการจ่ายของควารัตสเคเลีย ก่อนเลี้ยงตัดเข้าในและยิงด้วยซ้าย บอลโค้งหนีมืออุสตารี่เข้าประตูอย่างสวยงาม เปแอสเชนำห่าง 2-0.

สถานการณ์ของอินเตอร์ ไมอามี่ยิ่งเลวร้ายลงในนาทีที่ 44 เมื่อโทมัส อาวิเลส กองหลังของอินเตอร์ ไมอามี่ สกัดบอลผิดพลาดเข้าประตูตัวเองจากการเปิดบอลของนูโน่ เมนเดส ทำให้เปแอสเชทิ้งห่าง 3-0. และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 45+3 อาชราฟ ฮาคิมี่ ฟูลแบ็กจอมบุกของเปแอสเช หลุดไปทางกราบขวาก่อนยิงมุมแคบ บอลพุ่งเสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาด ปิดครึ่งแรกด้วยสกอร์ 4-0

ครึ่งหลัง: อินเตอร์ ไมอามี่ไร้ทางสู้

ในครึ่งหลัง อินเตอร์ ไมอามี่พยายามปรับเกม โดยเมสซี่พยายามสร้างโอกาสด้วยการเลี้ยงบอลและจ่ายบอลให้ซัวเรซ แต่แนวรับของเปแอสเชยังคงแข็งแกร่ง ดอนนารุมม่าก็เซฟได้อย่างยอดเยี่ยมในจังหวะที่เมสซี่ได้ยิงฟรีคิกในนาทีที่ 55 เปแอสเชเปลี่ยนตัวสำรองบางตำแหน่งเพื่อรักษาความสมดุล โดยส่งบราดเลย์ บาร์โคล่า และวาร์เรน ซาอีร์-เอเมรี่ลงมาเพิ่มความสดในแดนหน้าและแดนกลาง

อินเตอร์ ไมอามี่เกือบได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 70 เมื่อเมสซี่เปิดบอลให้ซัวเรซโหม่ง แต่ดอนนารุมม่าปัดบอลออกไปได้อย่างหวุดหวิด ช่วงเวลาที่เหลือ เปแอสเชยังคงครองเกมได้เหนือกว่า และเลือกที่จะคุมจังหวะเกมเพื่อรักษาสกอร์ จบเกมด้วยชัยชนะขาดลอย 4-0